การเลือกเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน ช่วงฤดูหนาว ในประเทศไทย
- ความแตกต่างระหว่างเครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องทำน้ำร้อน
เครื่องทำน้ำอุ่น
ใช้สำหรับให้ความร้อนในปริมาณน้ำที่ใช้งานในทันที จะเป็นเครื่อง 3500-4500 วัตต์
ต่อฝักบัวได้ทันที เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น ห้องน้ำบ้านพักอาศัย
มีขนาดเล็ก ราคาประหยัด และติดตั้งง่าย ซึ่งบ้านสมัยใหม่มักเดินท่อน้ำฝังผนังมาเพื่อการติดตั้งโดยเฉพาะ
เลือกเครื่องทำน้ำอุ่น
เครื่องทำน้ำร้อน
มีทั้งแบบให้ความร้อนในปริมาณน้ำที่สามารถใช้งานได้ทันที จะเป็นเครื่อง 6000 วัตต์
และระบบแบบมีแทงก์เก็บน้ำร้อน สำหรับจ่ายน้ำไปยังหลายจุด เช่น ห้องน้ำหรือห้องครัวหลายห้อง
ซึ่งต้องใช้ร่วมกับก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนและน้ำเย็น
เหมาะกับบ้านขนาดใหญ่ หรือครอบครัวที่มีการใช้น้ำร้อนหลายจุดพร้อมกัน
ขนาดใหญ่และติดตั้งซับซ้อนกว่า
เลือกเครื่องทำน้ำร้อน
2. ความจุและกำลังไฟฟ้า
กำลังไฟฟ้า (เครื่องทำน้ำอุ่น)
ควรเลือกกำลังไฟ 3,500-6,000 วัตต์ (ยิ่งวัตต์สูง ยิ่งร้อนเร็ว)
หากอยู่ในพื้นที่อากาศหนาวมาก เช่น ภาคเหนือ ควรเลือก 4,500 วัตต์ขึ้นไป
ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านรองรับกำลังไฟนี้ได้หรือไม่
ความจุ (เครื่องทำน้ำร้อน)
บ้านขนาดเล็ก: เลือกความจุ 30-50 ลิตร
บ้านขนาดใหญ่: เลือก 80 ลิตรขึ้นไป
3. ความปลอดภัย
ตรวจสอบว่ามีระบบตัดไฟอัตโนมัติ (ELCB)
ควรมี มาตรฐาน มอก. หรือเครื่องหมายรับรองคุณภาพ
เลือกวัสดุทนต่อความชื้นและป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
4. ระบบควบคุมอุณหภูมิ
สำหรับเครื่องทำน้ำอุ่น: เลือกเครื่องที่มีระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ
สำหรับเครื่องทำน้ำร้อน: เลือกที่มีระบบเก็บความร้อนได้นานเพื่อลดค่าไฟ
5. ความเหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน
พื้นที่จำกัด: เลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีขนาดเล็ก
ใช้งานหลายจุดพร้อมกัน: เลือกเครื่องทำน้ำร้อนที่สามารถจ่ายน้ำไปยังหลายจุดได้
6. ประหยัดพลังงาน
มองหาเครื่องที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
หรือพิจารณาเครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับที่ห่างไกล
7. งบประมาณ
เครื่องทำน้ำอุ่น: ราคาเริ่มต้น 2,000-10,000 บาท
เครื่องทำน้ำร้อน: ราคาเริ่มต้น 7,000-50,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและระบบ
8. ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ
เครื่องทำน้ำอุ่น: Panasonic, Sharp, Electrolux, Toshiba, Hitachi, Haier, Beko, Axia
เครื่องทำน้ำร้อน: Panasonic, Electrolux, Ferroli
9. การติดตั้ง
ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญติดตั้งเพื่อความปลอดภัย และต้องตรวจสอบการติดตั้งสายดินเสมอ
รวมทั้งทดสอบระบบกันไฟรั่วผ่านปุ่ม ELCB ซึ่งอยู่ที่เครื่องทำน้ำอุ่นทุกรุ่น
อีกทั้งควร ตรวจสอบแรงดันน้ำในบ้านว่ารองรับกับเครื่องที่เลือกหรือไม่
คลิกชมการติดต่อช่างไทยมาร์ทเพื่อขอรับบริการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น
หม้อต้มทองแดง และ หม้อต้มกิวรอน (Giron) เป็นวัสดุที่ใช้ในเครื่องทำน้ำอุ่นหรือเครื่องทำน้ำร้อน โดยแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้:
1. หม้อต้มทองแดง
วัสดุ: ทำจากทองแดง (Copper) ซึ่งเป็นโลหะที่มีคุณสมบัตินำความร้อนดีเยี่ยม
ข้อดี:นำความร้อนได้เร็ว: ให้ความร้อนแก่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทนทาน: อายุการใช้งานยาวนาน และทนต่อแรงดันน้ำ
ป้องกันการกัดกร่อน: ทองแดงทนต่อการเกิดสนิม (Rust) ได้ดี
ข้อเสีย:ราคาแพงกว่า: เครื่องที่ใช้หม้อต้มทองแดงมักมีราคาสูง
น้ำหนักมากกว่า: ทองแดงมีน้ำหนักมากกว่า Giron
2. หม้อต้มกิวรอน (Giron)
วัสดุ: ทำจากวัสดุผสมพิเศษ (ส่วนใหญ่เป็นโลหะผสมเคลือบสารกันสนิม)
ข้อดี:ป้องกันการกัดกร่อนดีเยี่ยม: วัสดุเคลือบพิเศษช่วยป้องกันการเกิดสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
น้ำหนักเบา: ทำให้เครื่องมีน้ำหนักรวมเบากว่า
ราคาถูกกว่า: มักมีราคาประหยัดเมื่อเทียบกับหม้อต้มทองแดง
ข้อเสีย:นำความร้อนได้ช้ากว่า: การถ่ายเทความร้อนของวัสดุ Giron อาจไม่เร็วเท่าทองแดง
อายุการใช้งานสั้นกว่า: วัสดุผสมอาจไม่ทนต่อแรงดันน้ำสูงเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน
สรุปความเหมาะสมในการเลือก
หากคุณใช้น้ำร้อนแค่ในห้องน้ำ และบ้านพักอาศัยอยู่ในเมือง เครื่องทำน้ำอุ่นก็เพียงพอ
แต่ถ้าต้องใช้น้ำร้อนในบ้านพักบนดอย หรือ ต้องการความร้อนรวดเร็ว หรือบ้านระบบก๊อกผสม หรือต้องการใช้น้ำร้อนหลายจุดพร้อมกัน เช่น ในห้องครัวและห้องน้ำ เครื่องทำน้ำร้อนจะตอบโจทย์มากกว่า!
หม้อต้มทองแดง: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความทนทานสูง ใช้งานระยะยาว หรือในพื้นที่ที่น้ำมีความกระด้างและเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น บ้านในพื้นที่ภูเขา
หม้อต้มกิวรอน: เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด ต้องการเครื่องที่น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และใช้งานทั่วไปในบ้าน
หากคุณใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่นในพื้นที่ทั่วไป หม้อต้มกิวรอนก็น่าจะเพียงพอ แต่หากต้องการความคุ้มค่าในระยะยาว หม้อต้มทองแดงอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า!
เลือกเครื่องทำน้ำอุ่น
เลือกเครื่องทำน้ำร้อน